เตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อนการบริจาคโลหิต

การบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง สามารถปั่นแยกเป็นส่วนประกอบโลหิตได้ถึง 3 ชนิด คือ เม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด และพลาสมา ซึ่งสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยกลุ่มต่าง ๆ เช่น

• เม็ดเลือดแดง สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ไขกระดูกฝ่อ ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดที่สูญเสียเลือดมาก ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ ผู้ที่อยู่ระหว่างการคลอดบุตร
• เกล็ดเลือด สำหรับรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โรคไข้เลือดออก มะเร็งเม็ดเลือดขาว
• พลาสมา สามารถรักษาผู้ที่มีอาการช็อคจากการขาดน้ำ ผลิตเซรุ่มป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี และเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และสามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์โลหิต ได้แก่ แฟตเตอร์ 8 (Factor VIII) สำหรับรักษาโรคฮีโมฟีเลีย เอ หรือผลิตอิมมูโนโกลบูลิน (IVIG) สำหรับรักษาโรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง และอัลบูมิน (Albumin) รักษาไฟไหม้น้ำร้อนลวก และโรคตับ   

เพื่อให้โลหิตที่บริจาคมีลักษณะสมบูรณ์ พร้อมนำไปใช้รักษาผู้ป่วย ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนบริจาคโลหิต โดย

1. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หากอยู่ระหว่างรับประทานยารักษาโรค ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่จุดคัดกรองสุขภาพทุกครั้ง

2. รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เพื่อช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น เนื้อแดง (เนื้อวัวและหมู), ตับ, หอยแครง, ทูน่า, ผักใบเขียวเข้ม และรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผักและผลไม้ต่าง ๆ โดยรับประทานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการบริจาคโลหิต

3. นอนหลับสนิท ไม่น้อยกว่า 5 ชม.

4. สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ไม่คับแน่น สามารถดึงแขนเสื้อขึ้นเหนือข้อศอกได้ อย่างน้อย 3 นิ้ว

5. ควรรับประทานอาหารตามมื้อปกติก่อนมาบริจาคโลหิต โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมูก่อนการบริจาคโลหิตอย่างน้อย 6 ชม.

6. ดื่มน้ำสะอาด ประมาณ 3-4 แก้ว ก่อนการบริจาคโลหิต

7. ผู้ที่สูบบุหรี่ ควรงดสูบบุหรี่ 1 ชม. ก่อนและหลังบริจาคโลหิต

8. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนและหลังบริจาคโลหิต

9. ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์

ที่มา ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย