ใครบ้างที่ต้องระวังการกินเจ

---

ผู้เขียน : krittapat.bวันที่ : 01/10/2024หมวด : การดูแลสุขภาพ

ใครบ้างที่ต้องระวังการกินเจ

เทศกาลกินเจเป็นเทศกาลที่ผู้เข้าร่วมจะทำการงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ โดยเน้นทานอาหารจำพวกผัก ผลไม้ หรือถั่วต่างๆ แทน ถือเป็นช่วงที่คนเราเชื่อว่าเป็นการชำระล้างทั้งร่ายกายและจิตใจ ทำให้ให้บริสุทธิ์ อีกทั้งยังถือว่าเป็นการทำบุญไปในตัวอีกด้วย เพราะการงดเว้นรับประทานเนื้อสัตว์ ก็เปรียบเสมือนการช่วยลดการฆ่าสัตว์ไปในตัว แต่ การรับประทานอาหารเจ ก็อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง หรือ อาจส่งผลเสียในผู้ป่วยบางกลุ่มที่มีการทานเจแบบไม่เหมาะสมได้ 

วันนี้เราก็จะมายกตัวอย่างข้อควรระวังของการทานเจในคนกลุ่มต่างๆ ว่ามีกลุ่มไหนควรระวังบ้าง และจะกินเจอย่างไรให้ปลอดภัยกับร่างกายของเรา

 

1. ผู้ป่วยกลุ่มโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วน

• ในช่วงทานเจบางคนจะเน้นทานแป้ง ทานน้ำตาล ทานของผัด ของมัน ของทอด ซึ่งอาหารดังกล่าวอาจส่งผลต่อการควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือดได้ อาจทำให้ผู้ป่วยควบคุมได้อยากขึ้น และอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคอ้วน หากทานอาหารดังกล่าวมากๆ อาจส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และอาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงของโรคบางชนิดที่เกิดจากน้ำหนักที่มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มอาการหยุดหายใจขณะหลับเป็นต้น 

วิธีการแก้ไข

• แนะนำทานอาหารแบบนึ่ง ต้ม ตุ๋น แทน และทานข้าวและแป้งในปริมาณที่พอดี โดยอาหารที่ทานอาจเน้นเป็นพวกโปรตีนเกษตร ธัญพืช และเต้าหู้แทน
• หากอยากทานของหวานแนะนำเป็นผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ และไม่หวานจัด เช่น แอปเปิ้ล, แก้วมังกร และ สาลี่เป็นต้น

2. ผู้ป่วยกลุ่มโรคไต ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจล้มเหลว

• อาหารเจบางชนิดจะมีการปรุงรสด้วยผงปรุงรสหรือผงชูรสเพื่อให้มีรสชาติอร่อย หรือเพื่อให้มีกลิ่นรสคล้ายเนื้อสัตว์ให้มากที่สุด โดยเครื่องปรุงรสเหล่านั้นส่วนใหญ่มักประกอบไปด้วยโซเดียม ซึ่งหากร่างกายรับโซเดียมมากเกินไปอาจส่งผลความดันโลหิตทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ไต และหัวใจ ก็ทำงานหนักขึ้น จึงอาจส่งผลให้ผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวอาจมีการกำเริบของโรค หรือโรครุนแรงขึ้นได้
• นอกจากนี้ในโปรตีนเกษตรที่ผลิตจากถั่วอาจมีฟอสฟอรัสที่สูง ซึ่งอาจมีปัญหากับผู้ป่วยโรคไตบางรายที่มีระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูงได้

วิธีการแก้ไข

• แนะนำให้ทานอาหารที่ไม่ได้ปรุงจัด หรืออาจทานอาหารที่มีกลิ่นรสของเองตามธรรมชาติ เช่น เห็ดหอม หน่อไม้จีน เป็นต้น 
• ผู้ป่วยไตพยายามทานโปรตีนในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับตัวโรค

3. เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปี 

• ช่วงวัยนี้เด็กต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต ดังนั้นถ้าอยากให้เด็กๆรับประทานเจ พยายามทำเมนูให้หลากหลาย จัดความสมดุลของอาหารโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ให้เหมาะสม เพื่อให้เด็กๆได้รับสารอาหารและวิตามินครบถ้วน

4. กลุ่มผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้นร่างกายหลังผ่าตัด และหญิงตั้งครรภ์

• คนกลุ่มนี้ต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนเต็มที่ การทานเจอาจทำให้สารอาหารที่ได้รับไม่เพียงพอ หากต้องการทานจริงๆให้ปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะได้ไม่เกิดผลเสียต่อสุขภาพ

 

หากท่านใดมีข้อสงสัย หรือมีข้อสอบถามเพิ่มเติมสามารถทักมาสอบถามได้ที่ “แอปพลิเคชันร้านยากรุงเทพ” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นะครับ

บทความโดย ภก.ภูริวัจน์ เลิศเดชธนะศักดิ์

References:

• Image Ref: https://www.freepik.com/free-photo/asian-female-physician-consulting-woman-office_5839290.htm#fromView=search&page=1&position=0&uuid=95a48ecb-2443-421e-8eb3-204d018e5599

---