Call Center: (02)538-2229
 สำนักงาน: (02)538-7900
 Fax: (02)538-5508
 E-mail: bangkokdrugstore@yahoo.com

ภาวะแพ้พื้นที่สูง (High Altitude Sickness)


ผู้เขียน : shopaga.kวันที่ : 09/12/2025หมวด : โรค

     การเดินทางไปในพื้นที่ที่มีความสูงมาก ๆ โดยเฉพาะบริเวณที่มีความสูงมากกว่า 2,500 เมตรขึ้นไป อาจทำให้เกิดภาวะ Altitude Sickness หรือ ภาวะแพ้ที่สูง ซึ่งเป็นภาวะที่พบจากการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมาก ๆ เช่น ยอดเขาสูงในประเทศทิเบต อินเดีย หรือประเทศจีน ซึ่งจะมีระดับออกซิเจนและความกดอากาศต่ำกว่าปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถปรับตัวให้อยู่ในภาวะที่มีออกซิเจนน้อยได้ เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา เช่น ปวดศีรษะ เหนื่อยง่าย อาเจียน ซึ่งอาการอาจจะรุนแรงมากขึ้น จนอาจเสียชีวิตได้

     ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ อายุ เพศ หรือสมรรถภาพของร่างกาย แต่ขึ้นอยู่กับร่างกายที่จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพความกดอากาศได้ดีและรวดเร็วเพียงใด ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ เช่น เคยมีประวัติแพ้ที่สูงมาก่อน เดินทางขึ้นที่สูงเร็วเกินไป

ภาวะ Altitude Sickness ประกอบด้วยกลุ่มอาการ ดังนี้

1. Acute Mountain Sickness (AMS) เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด มักจะมีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วยได้ มักเกิดขึ้นในคืนแรกที่ขึ้นไปยังบริเวณที่สูง ร่างกายสามารถปรับตัวเองได้ภายใน 1-2 วัน

2. High Altitude Cerebral Edema (HACE) เป็นภาวะที่เกิดต่อเนื่องจากภาวะ AMS จะมีอาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ เห็นภาพซ้อน มีพฤติกรรมเปลี่ยน อาการคล้ายคนเมา หากรุนแรงจะชักและหมดสติและเสียชีวิตได้

3. High Altitude Pulmonary Edema (HAPE) คือภาวะปอดบวมน้ำ อาจเกิดขึ้นเดี่ยว ๆ หรือเกิดร่วมกับภาวะ HACE ได้ โดยผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยมากขึ้นแม้พัก หายใจลำบาก ไอแห้ง ๆ เมื่อรุนแรงขึ้นจะไอเป็นฟอง และรุนแรงจนนำไปสู่การเสียชีวิตได้เช่นกัน

     ทั้งภาวะ HACE และ HAPE สามารถนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ดังนั้น หากมีอาการ โดยเฉพาะ HACE หรือ HAPE ควรได้รับการรักษาและลงจากที่สูงโดยเร็วที่สุด

การป้องกันภาวะ Altitude Sickness

  1. ศึกษาข้อมูลของสถานที่ที่จะไปว่ามีความสูงเท่าไหร่ และวางแผนการท่องเที่ยวเผื่อไว้ให้ร่างกายได้ปรับตัว ไม่ควรเดินทางขึ้นที่สูงเร็วเกินไป ควรพักที่เมืองที่อยู่ต่ำกว่า 1-2 วันเพื่อปรับสภาพร่างกาย หากมีโรคประจำตัว หรือไม่แน่ใจในแผนการเดินทางว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ควรพบแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อช่วยวางแผนการเดินทางหรือแนะนำการใช้ยาป้องกัน

     ตัวอย่างยาสำหรับป้องกันภาวะ Altitude sickness เช่น ยาอะเซตาโซลาไมด์ (Acetazolamide) ยานี้มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ สามารถลดความดันตา ใช้รักษาโรคต้อหิน แต่เนื่องจากมีฤทธิ์กระตุ้นการหายใจจึงมีการนำมาใช้ในภาวะแพ้ที่สูง ขนาดยาสำหรับป้องกันภาวะแพ้ที่สูง คือครั้งละ 125 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง โดยเริ่มรับประทานก่อนเดินทาง 1 วัน ยามีข้อห้ามใช้ในผู้ที่มีการแพ้ยานี้และยาในกลุ่มซัลโฟนาไมด์ ผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องโซเดียมและโพแทสเซียม ผู้ป่วยโรคต่อมหมวกไต หากไม่สามารถใช้ยา Acetazolamide ได้ แพทย์อาจจะพิจารณายา Dexamethasone ซึ่งจัดเป็นยาสเตียรอยด์

  1. ควรเตรียมแผนสำรองเผื่อไว้กรณีฉุกเฉิน ศึกษาระบบการรักษาพยาบาลของสถานที่ที่จะไป ตลอดจนการประกันการเดินทาง
  2. สังเกตอาการตนเองและเพื่อนร่วมทางเสมอ ถ้ามีอาการ เช่น ปวดศีรษะ มึนศีรษะ อ่อนเพลีย ควรหยุดพัก ถ้าเป็นแค่ Acute Mountain Sickness ร่างกายจะค่อย ๆ  ปรับตัวได้เอง แต่หากมีอาการรุนแรง เช่น เหนื่อยมาก ไอ สับสน ปวดศีรษะ มึนงงมาก ต้องรีบลงสู่พื้นที่ที่ต่ำกว่า และหาสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที

เอกสารอ้างอิง

Acute Altitude Illness: Updated Prevention and Treatment Guidelines from the Wilderness Medical Society in Am Fam Physician. 2020;101(8):505-507. Retrieve from https://www.aafp.org/pubs/afp/issues/2020/0415/p505.html

ธันย์ชนก ศิริรักษ์. ยาสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่สูง. บทความวิชาการสำหรับการศึกษาต่อเนื่อง. สืบค้นข้อมูลจาก https://ccpe.pharmacycouncil.org/showfile.php?file=1209


บริษัท กรุงเทพดรักสโตร์ จำกัด
2585/2 ถนนลาดพร้าว(ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 87)แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทร: (02)538-7900 แฟกซ์: (02)538-5508
E-mail: bangkokdrugstore@yahoo.com

[คลิกที่ภาพเพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่]