รู้ทันภาวะหมดไฟ ก่อนที่ร่างกายจะพัง

ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาได้ให้คำจำกัดความว่า ภาวะหมดไฟ หรือ ภาวะเบิร์นเอาท์ (Burnout) เป็นปฏิกิริยาตอบสนองทางอารมณ์แบบเรื้อรังต่องานที่ทำ ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีอารมณ์ที่จะทำงาน เกิดภาวะขาดความรู้สึกสนุกในการทำงาน ขาดแรงจูงใจ เป็นต้น ซึ่งภาวะนี้อาจจะนำไปสู่ปัญหาทางร่างกายหลายอย่าง เช่น นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ เบื่อหน่าย ตลอดจนโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดัน โรคหัวใจ และเบาหวาน และเป็นสาเหตุนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และมากกว่า 60-80% จะต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์

ภาวะหมดไฟ เป็นปัญหาทางด้านสุขภาพจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าภาวะนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจซึ่งยังไม่ถึงขึ้นการมีอาการเจ็บป่วยทางจิตเวช

ภาวะหมดไฟเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างเร่งรีบและกดดัน แต่สามารถป้องกันและจัดการได้ ดังนี้

1. จัดลำดับงานให้เหมาะสม โดยการกำหนดลำดับความสำคัญของงาน มอบหมายงานให้คนอื่นเมื่อทำได้ และกล้าปฏิเสธงานใหม่เมื่อภาระงานล้นมือ

2. บริหารความเครียด ฝึกสติ มีสติอยู่กับปัจจุบัน ใช้การทำสมาธิ โยคะ หรือใช้เทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก ๆ หรือเกร็งคลายกล้ามเนื้อ

4. ดูแลตัวเองด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ พักผ่อนให้เต็มที่ ตลอดจนออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดิน วิ่ง หรือเล่นโยคะ

5. หาผู้ที่คอยสนับสนุน เช่น คุยกับเพื่อนที่ไว้ใจได้ ปรึกษาคนในครอบครัว หรือหานักจิตวิทยาที่ช่วยชี้แนะแนวทางได้

ภาวะหมดไฟสามารถจัดการได้ หากเรารู้จักวางเป้าหมายให้เหมาะสม ดูแลตัวเอง ฝึกสติ จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม แต่หากรู้สึกว่ายังไม่สามารถรับมือกับปัญหานี้ได้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อรับการช่วยเหลือให้กลับมามีสมดุลในชีวิตและการทำงานอีกครั้งก็เป็นอีกคำตอบหนึ่งที่ช่วยคุณได้

Reference

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2562). ภาวะหมดไฟในการทำงาน (burnout syndrome). https://dmh.go.th/news/view.asp?id=2270