Call Center: (02)538-2229
สำนักงาน: (02)538-7900
Fax: (02)538-5508
E-mail: bangkokdrugstore@yahoo.com facebook
ในแต่ละปี หลายคนต้องเผชิญกับอาการป่วยที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus) และไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) ซึ่งทั้งสองชนิดนี้เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ทั้ง 2 โรคนี้มีอาการที่เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้มีคำตอบให้ค่ะ
ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) และ RSV คืออะไร?
ไข้หวัดใหญ่ (Flu) เป็นการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ อาการมักจะมาอย่างฉับพลันและรุนแรง เช่น มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก คัดจมูก
ส่วน RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในปอดและระบบทางเดินหายใจ อาการสำคัญจะคล้ายอาการของโรคหวัดหรือหวัดใหญ่ แต่จะมีอาการเด่น คือ มีน้ำมูก ไอ และหายใจลำบาก หรือหายใจมีเสียงหวีด โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุสามารถนำไปสู่โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchiolitis) หรือปอดอักเสบได้
จะรู้ได้อย่างไร ว่าเราเป็นไข้หวัดใหญ่ (Influenza) หรือ RSV
ในปัจจุบันมีชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) สำหรับตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ และ RSV ที่สามารถตรวจคัดกรองโรคได้ด้วยตัวเองแล้ว อีกทั้งยังมี ATK แบบที่สามารถคัดกรองเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจหลายๆ หากคุณมีอาการและต้องการทราบว่าเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดใด การใช้ ATK อาจช่วยในการคัดกรองโรคเบื้องต้นได้
การดูแลตัวเองเบื้องต้น
เมื่อมีอาการป่วยจากไข้หวัดใหญ่หรือ RSV การดูแลตัวเองเพื่อช่วยบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน ทำได้โดย
พักผ่อนให้เพียงพอ: ควรนอนหลับให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะ
ดื่มน้ำมากๆ หรือจิบน้ำอุ่นเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและช่วยบรรเทาอาการไอ ทำให้เสมหะอ่อนตัวลง
ทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่ย่อยง่าย เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ล้างมือบ่อยๆ: ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
รับประทานยาบรรเทาอาการ ได้แก่ ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อลดไข้และบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามตัว สามารถรับประทานยาอื่นๆ ตามอาการ ยาลดน้ำมูก/ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ละลายเสมหะ ในกรณีของไข้หวัดใหญ่ หากตรวจพบเชื้อและอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัส เช่น Oseltamivir ซึ่งควรเริ่มใช้ภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังมีอาการเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ส่วน RSV ปัจจุบัน ยังไม่มียาต้านไวรัสที่เฉพาะเจาะจง หากใช้ยาบรรเทาอาการแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาหรือทำหัตถการเพิ่มเติมต่อไป
แล้วเมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ หรือ RSV สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยากรุงเทพได้ทั้งที่สาขาและทางแอปพลิเคชัน
บทความโดย ภญ.เฌอร์ลิญา สุระรังษีพัทธ์
บริษัท กรุงเทพดรักสโตร์ จำกัด
2585/2 ถนนลาดพร้าว(ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 87)แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทร: (02)538-7900 แฟกซ์: (02)538-5508
E-mail: bangkokdrugstore@yahoo.com
[คลิกที่ภาพเพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่]