ยาลดความดัน ทำไมต้องกินตอนเช้า และต้องกินยาอย่างไร หากไม่ได้กินข้าวเช้า

ความดันโลหิตสูงเป็นภัยเงียบที่พบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ควบคุมอาจนำไปสู่โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือไตวายเรื้อรังได้ หนึ่งในแนวทางสำคัญในการควบคุมความดันคือ การรับประทานยาลดความดันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งคำถามที่มักพบคือ ทำไมหมอมักสั่งจ่ายยาลดความดันให้กินตอนเช้า และ ถ้ายังไม่ได้กินอาหารเช้า จะกินยาได้หรือไม่

ทำไมต้องกินยาลดความดันตอนเช้า?

โดยทั่วไป หมอมักแนะนำให้กินยาลดความดันโลหิตในช่วงเช้า ด้วยเหตุผลดังนี้:

• วงจรธรรมชาติของร่างกาย (Circadian Pattern): ความดันโลหิตของคนเราจะเริ่มสูงขึ้นในช่วงเช้ามืด และขึ้นสูงสุดช่วงกลางวัน การกินยาลดความดันในช่วงเช้าจะช่วยควบคุมระดับความดันไม่ให้พุ่งสูงเกินไปในช่วงนี้
• ช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อน: การควบคุมความดันในช่วงเช้าช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือหัวใจวายเฉียบพลันที่มักเกิดช่วงเช้ามากกว่าช่วงอื่นของวัน
• สร้างวินัยในการกินยา: การกินยาเวลาเดิม เช่นหลังตื่นนอน จะช่วยให้ไม่ลืมกิน และทำให้ระดับยาในร่างกายคงที่

แต่อาจมีบางกรณีที่คุณหมอแนะนำให้กินยาลดความดันบางชนิดในช่วงเย็นหรือก่อนนอน เช่น กรณีผู้ป่วยมีค่าความดันสูงในช่วงกลางคืน ทางที่ดี ผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูงควรวัดความดันอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อย 2 ช่วงเวลาของแต่ละวัน และจดบันทึกการเปลี่ยนแปลงของค่าความดันในแต่ละช่วง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับวางแผนการรักษาและการใช้ยาร่วมกับคุณหมอ

นอกจากนี้ ปัจจุบัน ยาลดความดันใหม่ ๆ สามารถควบคุมความดันได้ตลอดทั้งวัน จึงสามารถกินช่วงใดก็ได้ โดยแนะนำให้กินยาในเวลาเดิมหรือใกล้เคียงกันทุกวัน เพื่อให้ระดับยาในเลือดคงที่

แล้วถ้าไม่กินอาหาร จะกินยาลดความดันอย่างไร?

บางครั้งผู้ป่วยอาจไม่ได้กินอาหารเช้า จึงไม่กินยาลดความดัน ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการควบคุมความดันโลหิตที่ไม่ได้ผล จริง ๆ แล้ว ยาลดความดันส่วนใหญ่สามารถกินตอนท้องว่างได้ เช่นตัวยา Enalapril, Lisinopril, Amlodipine, Atenolol สามารถกินยาเหล่านี้เมื่อถึงเวลาได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงมื้ออาหาร

สรุป

การกินยาลดความดัน ควรกินอย่างสม่ำเสมอ และให้ตรงเวลา เพื่อควบคุมระดับความดันให้สมดุลตามวงจรของร่างกาย ที่สำคัญ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ไม่ควรปรับเพิ่ม-ลด หรือหยุดยาเองนะคะ