วิตามินดี 3 มีดีอย่างไร

     วิตามินดี 3 จัดเป็นฮอร์โมนกลุ่มซีโคสเตียรอยด์ (Secosteriod) ซึ่งร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้เองจากผิวหนังในปริมาณสูงถึง 25,000 หน่วยสากล (IUs) ต่อวัน โดยอาศัยการกระตุ้นจากรังสีอัลตราไวโอเลตบี (UVB) วิตามินดีมีประโยชน์ในการช่วยควบคุมปริมาณแคลเซียมและฟอสเฟตในร่างกาย ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการรักษาสุขภาพของ กระดูก ฟัน และ กล้ามเนื้อ ให้แข็งแรง

ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี

     บางคนอาจได้รับวิตามินดีจากแสงแดดไม่เพียงพอ เนื่องจากไม่ค่อยได้สัมผัสแสงแดด

ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี ได้แก่:

• ผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกนอกบ้าน เช่น ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ หรือนอนติดเตียง
• อยู่ในสถานดูแล เช่น บ้านพักคนชรา
• ทำงานในตึกหรือในออฟฟิซ
• มักจะสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนังส่วนใหญ่เมื่ออยู่กลางแจ้ง

นอกจากนี้ในประชากรที่มีผิวคล้ำ เช่น มีเชื้อสายแอฟริกัน แอฟริกัน-แคริบเบียน หรือเอเชียใต้ ก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับวิตามินดีจากแสงแดดไม่เพียงพอเช่นกัน

โรคที่เกิดจากการขาดวิตามินดี

     ปัจจุบันพบว่าภาวะขาดวิตามินดีเป็นปัญหาที่พบบ่อย เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ และแหล่งอาหารที่มีวิตามินดียังมีอยู่มีจำกัด การขาดวิตามินดีมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายชนิด ซึ่งในปัจจุบันได้มีศึกษาแล้วว่าอาการของโรคเหล่านี้สามารถดีขึ้นได้อย่างชัดเจนเมื่อคนไข้ได้รับรังสี UVB ที่ผิวหนังอย่างเพียงพอ หรือได้รับการเสริมวิตามินดีในรูปแบบรับประทาน โรคเหล่านี้ได้แก่ โรคหอบหืด, โรคสะเก็ดเงิน, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคกระดูกอ่อน และวัณโรค

ปริมาณวิตามินดีที่แนะนำ

     ในผู้ที่มีการขาดวิตามินดี การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมวิตามินดี หรือวิตามินรวมที่มีวิตามินดีอาจจะสามารถช่วยบรรเทาและลดอาการของการขาดวิตามินดีได้ ปริมาณวิตามินดีที่แนะนำต่อวันคือ 400 หน่วยสากล (IU) สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 เดือน, 600 IU สำหรับผู้ที่มีอายุ 1 ถึง 70 ปี และ 800 IU สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี แต่ในผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินดีอาจต้องรับประทานในปริมาณที่สูงขึ้น ขึ้นอยู่กับปริมาณที่แนะนำในคนไข้แต่ละราย โดยมีช่วงการรับประทานได้ตั้งแต่ 5000 IU/วัน ถึง 60,000 IU/วัน ซึ่งยังพบว่าคนไข้สามารถรับประทานวิตามินดีขนาดสูงปริมาณดังกล่าวได้อย่างปลอดภัยดี

ตัวอย่างอาหารที่มีวิตามินดี

    นอกจากวิตามินดีที่ร่างกายสังเคราะห์ได้จากแสงแดดเมื่ออยู่กลางแจ้งแล้ว วิตามินดียังพบได้ในอาหารอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน, ปลาซาร์ดีน, ปลาเทราต์, ปลาเฮอร์ริ่ง หรือปลาแมคเคอเรล เนื้อแดง ไข่แดง อาหารเสริม เช่น เนยเทียมบางชนิดและซีเรียลอาหารเช้า และตับ

บทความโดย ภญ. พรลภัส บุญสอน

เอกสารอ้างอิง

-          Mayo Foundation for Medical Education and Research (MFMER). (2025, March 21). Vitamin D. https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements-vitamin-d/art-20363792

-          McCullough et al., (2019). Daily oral dosing of vitamin D3 using 5000 TO 50,000 international units a day in long-term hospitalized patients: Insights from a seven year experience. The Journal of Steroid Biochemistry and Molecular Biology, (189), 228-239.