Call Center: (02)538-2229
 สำนักงาน: (02)538-7900
 Fax: (02)538-5508
 E-mail: bangkokdrugstore@yahoo.com

เข่าเสื่อม ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม


ผู้ทำรายการ : shopaga.kวันที่ : 13/03/2024หมวด : โรค

บทความโดย ภญ. ปิยภัค หิรัญรัศ

          โรคข้อเสื่อมเป็นความผิดปกติที่เกิดจากความเสื่อมในส่วนโครงสร้างของข้อที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ มักเริ่มพบในวัยกลางคนขึ้นไป โดยมักพบในตำแหน่งของข้อที่ต้องรับน้ำหนักมาก ๆ เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก ข้อต่อกระดูกสันหลัง คอ และมือ นอกจากนี้ยังพบว่าเกิดกับข้อที่เคยได้รับการบาดเจ็บ มีการติดเชื้อ หรือเคยมีข้ออักเสบนำมาก่อน

          อาการของข้อเสื่อม ได้แก่ ข้อติดขัด หรือข้อฝืดตึง โดยเฉพาะเมื่อหยุดเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เช่นหลังตื่นนอน เหยียดหรืองอข้อได้ไม่สุด เคลื่อนไหวและใช้งานข้อไม่สะดวก และอาจรู้สึกถึงการเสียดสี หรือมีเสียงดังในข้อในขณะมีการใช้งาน ปวดข้อเมื่อเคลื่อนไหว ซึ่งส่วนใหญ่อาการปวดของโรคข้อเสื่อมมักเกิดในระหว่างที่มีการใช้งานของข้อซึ่งมักกินเวลานาน 30 นาทีและอาการมักดีขึ้นเมื่อได้พักใช้งาน สำหรับผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมที่มีอาการรุนแรงมากก็อาจมีอาการปวดข้ออย่างมากและรุนแรงเมื่อใช้งาน รวมทั้งรู้สึกว่าข้อหลวม ขาดความมั่นคง มีลักษณะผิดรูป

          สาเหตุของโรคเกิดจากกระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง จนเป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างของข้อทั้งในด้านรูปร่างและการทำงาน โดยการดำเนินโรคจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ จึงอาจไม่มีอาการหรือสัญญาณเตือนใด ๆ ในระยะแรก แต่เมื่อกระดูกอ่อนบริเวณผิวข้อถูกทำลายมากขึ้น ทำให้เมื่อมีน้ำหนักหรือแรงกดที่กระทำกับข้อ ส่งผลให้กระดูกใต้ข้อและกระดูกอ่อนผิวข้อสัมผัสเสียดสีกันได้มากขึ้น กล้ามเนื้อและเอ็นรอบข้อถูกยืด เป็นเหตุให้เกิดอาการปวด เมื่อโรคมีความรุนแรงมากขึ้น จะส่งผลให้อาการปวดรุนแรงขึ้น กล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อฝ่อลีบเล็กลง ข้อโก่ง ผิดรูปและเสียสภาพในที่สุด

          ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคข้อเสื่อม ได้แก่

1. น้ำหนักตัว ภาวะน้ำหนักตัวเกินจะส่งผลให้เกิดแรงกดภายในข้อที่รับน้ำหนักเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

2. อายุที่มากขึ้น มีโอกาสพบโรคข้อเสื่อมมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นความเสื่อมตามวัย

3. ปัจจัยทางพันธุกรรม โดยเฉพาะเมื่อในครอบครัวที่มีประวัติเป็นโรคข้อเสื่อม

4. การใช้งานหนักเกินไป หรือใช้ข้อในลักษณะที่ไม่ถูกต้อง เช่น กิจกรรมบางอย่างที่ส่งผลให้ข้อต้องรับแรงกดมาก

5. มีประวัติเคยได้รับบาดเจ็บ หรือติดเชื้อ บริเวณข้อ

              แนวทางการรักษา

              เป้าหมายหลักในการรักษาคือ บรรเทาอาการปวดและฟื้นฟูรักษาสภาวะการทำงานของข้อให้สามารถใช้งานได้ ชะลอการเสื่อมของข้อ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไข้ โดยแนวทางการรักษามีหลายรูปแบบได้แก่

1. การใช้ยา เพื่อระงับปวดและลดการอักเสบของข้อ ทั้งรูปแบบยารับประทาน และยาใช้ภายนอก

2. การทำกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูสุขภาพของข้อ ลดการเกิดข้อฝืด ข้อติด

3. การบริหารข้อ ลดการเกิดข้อฝืด ข้อติด เพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อ เพื่อให้รับน้ำหนัก และทนต่อการใช้งานได้ดีขึ้น

4. การผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะพิจารณาผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมในผู้ที่มีการทำลายของข้ออย่างมาก มีลักษณะผิดรูป หรือมีการสูญเสียการทำงานของข้อจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

              การป้องกันหรือชะลอการเสื่อมของข้อ นอกจากการดูแลสุขภาพข้อด้วยการไม่ใช้งานข้อในทางที่ผิด หรือรุนแรงเกินปกติแล้ว การเลือกอาหารเสริมที่มีงานวิจัยในการชะลอความเสื่อมของข้อ บรรเทาการอักเสบ นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีซึ่งสามารถใช้ทั้งในด้านการป้องกัน หรือชะลอการเสื่อมของข้อ และเสริมการรักษาได้ เช่น การใช้ Undenatured type II collagen เพื่อชดเชยคอลลาเจนที่ถูกทำลาย เสริมสร้างกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันรอบ ๆ ข้อ และยังช่วยบรรเทาการอักเสบของข้อ นอกจากนี้ในการบรรเทาปวดและอักเสบ  การใช้สารสกัดขมิ้นชัน สารสกัดจากผลกุหลาบป่า มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและสารอนุมูลอิสระ โดยมีงานวิจัยที่ยืนยันว่า สารสกัดดังกล่าวช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ บรรเทาปวด ลดการบวมอักเสบได้ดี จึงเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพข้อได้ในระยะยาว

References

    1. www.niams.nih .gov/health-topic/Osteoarthritis Basics: Overview, Symptoms, and Causes (nih.gov)

    2. www.who.int/news-room/fcat-sheets/details/osteoarthritis (who.int)

ขอบคุณภาพจาก Freepix

 


บริษัท กรุงเทพดรักสโตร์ จำกัด
2585/2 ถนนลาดพร้าว(ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 87)แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทร: (02)538-7900 แฟกซ์: (02)538-5508
E-mail: bangkokdrugstore@yahoo.com

[คลิกที่ภาพเพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่]